หลังจากที่เราบินไป workshop CDPII รอบแรกเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมาและได้รับโจทย์เป็น Business Case เพื่อเอามาทำการ develop business proposal กับทีมงาน และต้องบินกลับไป present กับคณะกรรมการในรอบที่ 2 ในเดือนมิถุนายน ดูๆแล้วเหมือนจะนานเนอะ คือประมาณ 3 เดือนที่ได้มีเวลา develop business proposal แต่เอาจริงๆ ทุกคนพอบินกลับ ต้องเจองานเยอะแยะมากมาย การจะรวมตัวคนในทีมให้มาเข้า call พร้อมกันนี่มันยากมาก พวกเราต้องพยายามแบ่งงานกันไปเลย ว่าใครเอาหัวข้อไหนไป สุดท้ายมันเป็นเรื่องของ accountability / responsibility และ commitment ในทีมงานแต่ละคนจริงๆ ถึงจะทำให้ success ได้

การเดินทางไปสนามบินครั้งนี้ลองใช้บริการ Airport Transfer ของ Citi Prestige ที่ให้สามารถนัด Limousine มารับ-ส่งได้ โดยยังเหลือสิทธิ์อยู่ 2 ครั้ง กลัวไม่ได้ใช้เลยนัดให้มารับ-ส่ง ทั้งสองครั้งในทริปนี้ไปเลย บริการถือว่าดีเลยนะ มาถึงก่อนเวลาที่นัด มีโทรมา confirm ด้วย ส่วนรถที่ใช้ก็เป็น Toyota Camry

มาถึงสนามบินก็ตามระเบียบ คือต้องไปใช้บริการ Lounge ฆ่าเวลา + หาของกินซะหน่อย ครั้งนี้ตั้งใจมาลอง Lounge ของ KLM ตรง Concourse F ที่เห็นกระแสบอกว่าดี ก็ดีจริงๆนะ ทั้งอาหาร เครื่องดื่ม บรรยากาศ เราว่าดีกว่า Miracle First Lounge ที่เคยไปมาด้วยซ้ำ

ได้เวลาก็ไปขึ้นเครื่องกัน Flight นี้คนเต็มอีกแล้ว ? ส่วนอาหารมี 2 มื้อ มื้อแรกอร่อยใช้ได้ เหมือนจะเป็นผัดแกงเขียวหวาน (ปกติถ้ามีพวกแกงต่างๆให้เลือก เราจะเลือกนะ เพราะครัวการบินไทย ทำอาหารพวกแกงกะทิได้อร่อยใช้ได้เลย) ส่วนมื้อ 2 ก่อนเครื่องลง ไม่ต้องเลือก เพราะเค้ามีให้อย่างเดียว เป็นแนว american breakfast

ครั้งนี้เราพักที่ Hilton Sydney ที่อยู่ใน CBD  เพราะคนในทีมขอให้เลือกที่พักที่เดียวกัน เวลาทำงานกลุ่มรอบดึกจะได้คุยกันได้ง่ายๆ ครั้งนี้เลยต้องนอกใจ Intercontinental Sydney เลยอ่ะ

ด้วยความที่เครื่องการบินไทยลงจอดเช้ามาก เรามาถึงที่พักตั้งแต่เก้าโมง ยัง Check-in ไม่ได้ตามเคย เลยต้องฝากกระเป๋าไว้ก่อนทั้งที่เพลียจะแย่เพราะนั่งในเครื่องมาแทบไม่ได้นอน

เดินออกมาหน้าโรงแรม ทำเลดีนะ อยู่ติดกับ Queen Victoria Building (QVB) เลย เดินไปนิดเดียวก็จะมี Woolworths Supermarket อยู่หน้าทางเข้าสถานี Town Hall Station

คราวนี้ไม่ได้อยากไปไหนเป็นพิเศษ เลยนั่งรถ bus ไปต่อคิวกิน pancake ร้าน Bill’s สาขา Surry Hill’s เป็นมื้อกลางวันซะเลย ด้วยความที่ตอนไปญี่ปุ่นคราวที่แล้วไม่ได้แวะ คราวนี้เลยมากินแพนเค้กญี่ปุ่นที่ออสเตรเลียแทนละกัน ?

ไปถึงเห็นคิวยาวออกมานอกร้านสมเป็นร้านดัง สุดท้ายต่อคิวราวๆครึ่งชม.กว่าจะได้เข้าไปกิน พนักงานต้อนรับที่นี่ friendly มาก น่ารักสุดๆเลยอ่ะ สำหรับเมนูนี่ก็ไม่ต้องเลือก เพราะตั้งใจมากินแพนเค้กเค้าอยู่แล้ว สั่งคู่มากับ Flat White แก้วใหญ่ นั่งรอแพนเค้กนานจน Flat White เกือบหมดแก้วแล้วถึงจะมา เมนูนี้ใช้เวลาพอสมควร แต่อร่อยสมกับที่ตั้งใจมากินเลย ?

กินเสร็จก็กลับมา Check-in ที่รร. เอาของขึ้นห้องและพักผ่อนสักหน่อย ห้องที่นี่ก็โอเคอยู่ แต่ไม่ค่อยชอบที่ตู้เย็นเป็นระบบอัตโนมัติคือถ้าหยิบน้ำออกจากช่องที่เค้าวางไว้นี่จะโดนชาร์จทันที ทำให้ไม่สามารถเคลียร์พื้นที่เอาของที่ซื้อจาก super มาเองเข้าไปแช่ได้ ?

พักจนหายเหนื่อยแล้วบ่ายแก่ๆก็ออกไปเที่ยวสักนิด เพราะเดี๋ยวก็จะไม่มีเวลาไปไหนละทั้ง week เพราะต้อง workshop & ทำงานยันดึกแน่ๆ ตอนแรกก็คิดอยู่ว่าจะไปไหนดี เพราะนี่มารอบ 3 แล้ว ที่เที่ยวที่อยากไปแบบใกล้ๆก็เก็บหมดแล้ว สุดท้ายเลยไปลองตามรอยหนังเรื่องฉลาดเกมส์โกงซะเลย เพราะหนังเรื่องนี้มีบางฉากที่ถ่ายที่นี่ด้วย ลงวิธีการไปแต่ละจุดไว้ด้วยเลยละกัน ส่วนรายละเอียดลองเข้าไปดูจากเวบอ้างอิง 2 ที่ด้านล่างได้

[ขอบคุณข้อมูลจาก  https://pantip.com/topic/38059542 และ http://everydayishoneymoonday.blogspot.com/2017/06/lonely-in-sydney-ep.html]

จุดที่ 1. Milsons Point ถ้านั่ง Ferry มาจะใกล้เลย ลงที่ Milsons Point Wharf แล้วเดินย้อนกลับมา แถมถ้าสนใจจะแวะเที่ยวสวนสนุก Luna Park ก็ยังได้อีกต่างหาก อยู่ติดๆกับจุดขึ้นลง Ferry เลย

จุดที่ 2. Circular Quay Train Station (Platform 1) ตรงนี้ต้องเข้ามาในสถานีรถไฟฟ้าเท่านั้น เดินไปตรงปลายๆ Platform หน่อยก็จะได้วิวจุดนี้ละ เรามาตอนกลางคืนเพราะงั้นก็จะคนละบรรยากาศแหล่ะ แต่จุดเดียวกัน

เคยลง post ไว้ที่ page ด้วย แปะไว้อีกที

ได้รูป Theme ของทริปนี้เรียบร้อยก็กลับโรงแรม เตรียมเอาแรงไว้ลุยสำหรับทั้งอาทิตย์นี้

17-20 June 2019

ช่วงวันจันทร์ – พฤหัสนี่ก็ลุยกันเต็มๆ คือ 3 วันแรกจะเป็น workshop เกี่ยวกับ presentation ล้วนๆ เพื่อ build skill ในการทำ ppt และวิธีการ present/การตอบคำถาม และวิธีรับมือกับ committee แต่ละคน ส่วนวันพฤหัสนี่จะเป็นวันที่เน้นรีวิว ppt กับทาง mentor และปรับแก้ slide ของพวกเรา

อาทิตย์นี้ตอนเช้ากินกาแฟกับ Granola ของโปรดทุกวันเลย สลับกันไปทั้งร้านด้านล่างโรงแรม กับร้านแถว office

กลางวันก็กิน food court เร็วๆแถวๆ office เอา สลับกันไปทั้งอาหารจีน/poke bowl/กรีก/fish & chips

ส่วนอาหารเย็นนี่ซื้อจาก Woolworths มากินที่ห้องทั้งวันจันทร์-พุธเลย เพราะกว่าจะได้ออกจาก office นี่ก็สามสี่ทุ่ม ร้านรวงต่างๆเค้าปิดกันหมดแล้ว มีวันพฤหัสนี่ดีหน่อย แบบว่าทำ ppt เสร็จเร็ว มาทันร้านกินร้าน Sushi Hotaru ที่อยู่ไม่ไกลจากโรงแรมพอดี แต่ก็แบบว่ากินเป็นคนสุดท้ายของร้านเลยอ่ะ 555 ?

21 June 2019

และแล้ว Final Day  ก็มาถึง พวกเราต้องใส่สูทอย่างเป็นทางการเพื่อทำการ present ให้กับคณะกรรมการ ที่ยากคือการรับมือคำถามต่างๆของกรรมการนี่แหล่ะ แต่สุดท้ายพวกเราก็ผ่านไปได้ พอผ่านแล้วรู้สึกเหมือนโล่งไปเลย รับมอบ Cert เรียบร้อยก็ถ่ายรูปหมู่กันก่อนแยกย้าย

ตอนเย็นมีนัดเพื่อนๆม.ต้นที่มาอยู่ที่ Sydney ไว้ ต้องนั่งรถไฟออกนอกเมืองไปถึงสถานี Cabramatta ใช้เวลาเกือบชม.แหน่ะ ไปถึงเจอหงส์รออยู่ที่สถานีแล้ว เดินออกจากสถานีไปหาจัยที่ขับรถมารอรับอยู่ด้านนอก ส่วนโอ๋เดี๋ยวตามไปเจอที่ร้านอาหาร เดินออกมาฝั่งตรงข้ามสถานีเหมือนเป็นย่านเวียดนาม เลยถ่ายรูปเก็บไว้ซะนิด

มื้อนี้จัยภูมิใจนำเสนออาหารจีนร้าน District8 มาก ในนั้นเป็น Casino ด้วย แต่ไม่ได้เข้าไปนะ ส่วนอาหารจีนวันนั้นเหมือนจะธรรมดาๆ ยกเว้นเจ้าปลาหมึกทอดนี่อร่อยมาก แต่เอาจริงๆคือแค่ได้มานั่งเม้าท์มอยกับเพื่อนเก่านี่กินอะไรก็ได้ ไม่เน้นละ แต่กินของคาวเสร็จ โอ๋บอกว่าขอจัดของหวานล้างปากหน่อย เรื่องกินๆนี่พวกเรามีเหรอจะขัด ?

22-June-2019

วันนี้ถือเป็นวัน Free Day ละ เราต้อง Check-Out ออกจากโรงแรม แล้วย้ายไปอีกรร.นึง เพราะจอง Flight กลับพรุ่งนี้ อยู่ Hilton แล้วจ่ายต่อเองไม่คุ้มนะ เพราะต้อง Check-out แต่เช้ามืดเลย เพราะงั้นก่อนออกจากรร.นี้ก็ขอลอง Breakfast Buffet ของ Hilton หน่อยเหอะนะ ขอจัดทีอิ่มยันเย็นเลยละกัน เพราะของเค้าคุณภาพดีเลย งานนี้ Carb Overloaded ?

ช่วงบ่ายเราไป Check-in ที่รร. Megaboom City Hotel ที่เคยมาตั้งแต่ครั้งแรก เพราะทำเลดีมาก อยู่ใกล้ๆ Hilton แบบเดินลากกระเป๋าไปต่อได้เลยโดยไม่ต้องขึ้น Taxi รวมทั้งมันยังไม่แพงด้วย เรทตอนจองประมาณสองพันกว่าๆ ถือว่าถูกมากแล้วกับทำเลนะ แต่ห้องก็เล็กๆหน่อย เตียงเดี่ยวนอนได้คนเดียวนะจ๊ะ แต่ดีที่มีห้องน้ำส่วนตัว ไม่ต้องแชร์กับใคร แบบนี้ก็โอเคละ

เก็บของเสร็จก็ไปเดินเล่นแถวๆ Westfield กันเถอะ ตรงนี้เป็นย่าน Shopping เลย ร้านรวงทั้งหลายมีครบจบแถวนี้

Microsoft ว่าใหญ่แล้ว Apple Store ใหญ่กว่ามาก แบบว่าถ่ายเก็บได้ไม่หมดอ้ะ

เดินผ่านเลยเข้ามาเดินดูใน The Strand Arcade ข้างในนี่สวยจริงๆ แต่ไม่ค่อยมีไรสำหรับเรา

จากนั้นก็ฝนตก! เราเลยกลับเข้ารร.ไปนั่งเล่นพักนึงก่อนรถฝนหยุด แล้วค่อยออกมาเดินตะลุยราตรีต่อ โดยการเดินจากรร.ไปถึงย่านที่เป็นเหมือน mini Thai Town ตรงถนน Campbell เพื่อมาดูตลาดไทยซะหน่อย ซึ่งก็จริงๆเป็นร้านเล็กๆแค่ 2 ร้านเองแฮะ ร้านอยู่ติดกับร้านอาหารไทย Chat Thai ที่ดังมากที่นี่ มีสาขาเพียบ และมักจะเห็นมีคิวตลอดเวลาด้วย น่าภูมิใจจริงๆ

จาก Thai Town เราก็เดินย้อนกลับมาที่ Darling Harbour เพื่อดูพลุที่จะมีจุดในคืนวันเสาร์ บรรยากาศตอนค่ำแถว Darling Harbour นี่ก็สวยไม่แพ้ตอนกลางวันเลย มันได้คนละ Feeling

ตอนแรกกะว่าจะมากิน Ribs ที่ Hurricane’s Grill ซะหน่อย แต่คิวยาวเหยียดมากๆ เลยกินร้าน Harbour Bar & Kitchen ใกล้ๆกันแทน เพราะมีที่นั่งดูพลุด้วยพอดี แต่บอกเลยว่ารสชาติสู้ไม่ได้สักกะติ๊ดเดียว ถือว่ากินแก้อยากละกัน (แต่พลุสวยมากกกกกก) ?

เสร็จแล้วก็ Strong เดินกลับโรงแรมเลย นอนเอาแรงก่อนตื่นเช้ามืดไปขึ้นเครื่องกัน

23-June-2019

ตื่นเช้ารอรถของ Redy2Go มารับที่หน้าโรงแรม ดีนะที่ตื่นเร็วกว่ากำหนด เพราะคนขับโทรมาบอกว่าจะถึงก่อนเวลานัดตั้ง 20 นาที! สรุปว่าเลยไปถึงสนามบินแต่เช้า มีเวลาไปเดินกินร้านในสนามบินอีก 2 ร้านเลยอ่ะ งานนี้ใช้บัตร Priority Pass กินฟรีเหมือนเดิม เพราะที่ Sydney Airport เค้าไม่มี Lounge เลยให้เป็นเครดิตกินฟรี 36 AUD ตามร้านที่เค้า Co กันไว้แทน ซึ่งก็มีแต่ร้านดีๆเลยนะ

เริ่มจากร้าน Mach2 ก่อน ร้านนี้เป็นแนวคาเฟ่อยู่ก่อนเข้าไปด้านใน ร้านน่านั่งดีอ่ะ เราสั่งเป็น Flat White กับครัวซองค์และเดนิช รสชาติใช้ได้เลย

ยังเหลือเวลาอีกเยอะ เราเลยไปหาของกินต่อที่ Peroni Bar ที่เดิมเหมือนครั้งก่อน เพราะร้านนี้อยู่หน้า Gate เราพอดี ครั้งก่อนลอง Pancake ไปแล้ว ครั้งนี้จัด Burger เลยละกันนะ อิ อิ

Flight กลับ คนเกือบเต็มลำเหมือนเดิม แต่โชคดีมากเพราะที่นั่งข้างๆว่างเลยนั่งกลับสบายหน่อย อาหารขากลับเลือกเป็นแกงเหมือนเดิม อร่อยดี  ส่วนมื้อที่สองก่อนเครื่องลงเป็นบะหมี่ไก่ รสชาติเฉยๆ

แล้วก็เป็นอันจบไปอีก 1 Trip ต้องขอขอบคุณบริษัท Cisco ที่ invest ให้เราสำหรับคอร์สนี้ (ราคาคอร์สอย่างเดียว ไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบิน/โรงแรม/อาหาร/การเดินทาง มา sydney 2 รอบ) ก็ 2500$ แล้ว พอรวมค่าใช้จ่ายทั้งหมดแล้วก็ราวๆเกือบจะ 3 แสนบาท!  เอาจริงๆตอนแรกอยากขอเลิกกลางคอร์สนะ (จริงๆแอบขอไปแล้วด้วย แต่เค้าไม่อนุมัติ) เพราะงานที่ต้องทำในคอร์สนี้มันเยอะมาก แถมงานที่ทำอยู่ก็ยังต้องทำต่อไป กลายเป็นงานเบิ้ล แต่พอจบคอร์สแล้วบอกเลยว่าภูมิใจในตัวเอง ได้ความรู้และประสบการณ์ใหม่ๆเยอะเลย มันทำให้เราโตขึ้นไปอีกนิด ว่าเวลาเจออะไรยากๆ เหนื่อยแค่ไหน ถ้าทำได้จนจบมันจะมีสิ่งดีๆรอเราอยู่เสมอ ?

Comments