ไม่รู้ว่าปายมีดีที่ตรงไหน ทำไมคนถึงชอบไปกันจัง … อยากรู้เลยต้องจัดสักหน่อย เลยเป็นที่มาของทริปนี้

คนส่วนใหญ่มักจะชอบไปปายกันในหน้าหนาว คือเดือนธันวา – มกราฯ แต่ก็ได้ยินเพื่อนๆบ่นกันมาเยอะอ่ะ ว่าคนเยอะมากๆๆๆๆๆ โดยเฉพาะถ้าไปช่วงปีใหม่ เราเลยวางแผนไปกันตั้งแต่เดือนตุลาฯเลยดีกว่า คิดเอาว่าฝนไม่น่าจะมีแล้ว คิดได้ยังงี้เลยไปเดินงานไทยเที่ยวไทยที่ QSNCC ดูว่ามีที่ไหนน่าไปพักบ้าง สรุปสุดท้ายได้ที่ Hotel De Artist, Rose of Pai ที่พักอยู่ติดริมน้ำ ห้องน่ารัก คาเฟ่โรงแรมน่ารัก อยู่บนถนนคนเดินเลย เลยจัดไป 2 คืนถ้วนๆ

7 October 2010

การเดินทางครั้งนี้ใช้บริการ Air Asia เจ้าเก่า เดินทางสบายดีไม่มีดีเลย์แต่ประการใด ไปถึงสนามบินก็ไปรับรถเช่าที่จองไว้ที่ Hertz โดยซื้อ voucher รถเช่ามาก่อนจาก Voucher Car Rental แนะนำว่าการซื้อ voucher ทำให้ประหยัดมากกว่าการมาจองที่หน้า counter มาก

หลังจากได้รถแล้วเราก็ขับออกจากสนามบินมุ่งหน้าไปทางแม่ริมเพื่อไปยังที่แรกก่อนจะไปปายเลย คือ พระพุทธบาทสี่รอย

ออกจากวัดแล้วก็ขับรถไปปาย ผ่าน 762 โค้ง (หรือเปล่าไม่รุ้ เค้าว่ากันงั้น เพราะไม่ได้นับ) รู้แต่ก่อนไปเตรียมยาดม+ของเปรี้ยวๆไว้เรียบร้อย คนขับอย่างเราก็โอเค แค่คนนั่งนี่สิ น่าสงสาร ^^” แต่ก็ไม่ได้เป็นอะไรมากนะ ก็แค่มึนๆเวียนๆ ^^” ระหว่างทางมีการแวะ โป่งเดือดป๋าแป ที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวอยู่ระหว่างทางไปปาย ผ่านแล้วก็ต้องแวะสักหน่อย โป่งเดือดมีน้ำอยู่เท่าที่เห็น ไม่ค่อยมีอะไรมาก แต่น้ำดูเดือดจริง

ส่วนห้วยน้ำดังแวะขากลับจากปายมาเชียงใหม่นะ แต่รวมรูปไว้ด้วยกันเลยละกัน ทางเดินลงไปที่ป้ายข้างล่างมันไกลอยู่ ขี้เกียจเดินเลยถ่าย on top ลงไปแล้วกันนะ แห่ะๆ

ออกจากโป่งเดือดป๋าแปแล้วก็มุ่งหน้าไปที่ปายเพื่อ check-in เข้าที่พักก่อนเลย — Hotel De Artist, Rose of Pai นั่นเอง

ตอนเย็นไปเดินเล่นถนนคนเดิน ของขายก็เยอะเหมือนกัน แต่ส่วนใหญ่เป็นพวกของฝาก อย่างเสื้อยืด screen ของปายนี่เยอะมาก แต่ร้านเป็นสไตล์น่ารักๆดี เดินชิลๆโอเค แต่ที่แย่คือเดือนตุลาแล้วยังจะมีฝนตกอีก ยังดีที่ตกปรอยๆและตกแป๊บๆ เลยพอให้อภัยได้ … แวะเขียน postcard กลับมาหาแม่กับน้องตามความฮิต แวะไปดู KBANK สาขานี้ที่ตกแต่งได้ฮิปดี ร้าน Black Canyon สาขานี้ก็น่ารักไม่แพ้กัน (รวมทั้งสาวๆที่มา post ท่าถ่ายรูปแถวๆนั้นด้วย ^^)   ได้ลองชิม ข้าวปุกงาดำ ที่เคยเห็นจากรีวิวอื่นๆด้วย ชิมแล้วก็ธรรมดาๆนะ

8 October 2010

วันรุ่งขึ้นตื่นมาก็ตระเวณเที่ยวในปายกันก่อน เริ่มจาก วัดพระธาตุแม่เย็น ที่มีจุดชมวิวรอบเมืองปาย กับ โป่งน้ำร้อนท่าปาย ที่สามารถซื้อไข่ไปต้มได้ กินแล้วจะได้อายุยืน

จุดหมายต่อไปคือบ้านสันติชล (จีนยูนนาน) ไปถึงปุ๊บฝนตกกลางแจ้งเลยแฮะ เลยวิ่งไปกิน ขาหมูอันเลื่องชื่อรอฝนหายตกซะก่อน แบบว่าขาใหญ่มาก กินจนจุกอ่ะ ^^” อร่อยใช้ได้แต่ไม่ได้เทพฯถึงขนาดต้องมากินที่นี่หรอกนะ … เดินออกมาจากร้านอาหารเห็นกระเช้า(มันคือกระเช้าหรือเปล่านะ) แต่ขึ้นไปนั่งได้ แล้วจะมีคนมาดันให้มันลอยได้ให้ จะบอกว่าต้องใช้ผู้ชายดันกัน 3-4 คนอ่ะ เพราะว่าไม้ที่เป็นกระเช้านี้หนักใช้ได้เลยนะ ขึ้นไปแล้วมันส์ๆเสียวๆดี เพราะมันไม่ได้มีระบบ safety อะไรนอกจากไอ้ไม้ด้านหน้าที่มีไว้ให้ยึดเอง ส่วนไอ้คนผลักก็คงอยากให้สนุก ผลักซะแรง & เร็วเลยทีเดียวเชียว 555++ แต่หนุกดี ชอบๆๆ

ออกจากบ้านสันติชลก็ไปต่อกันที่ วัดน้ำฮู กับ วัดหลวง

9 October 2010

สิ่งที่ชอบมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆที่สุดของโรงแรมนี้คืออาหารเช้า! อาหารเช้าที่นี่ไม่ได้เป็น buffet เหมือนโรงแรมทั่วๆไป ก็เพราะว่าเค้าเป็นโรงแรมเล็กๆ เลยให้ลูกค้าสั่งจากเมนูได้เอง อาหารเป็นสไตล์ยุโรป-american แต่ต้องบอกว่าเค้าใช้วัตถุดิบอย่างดี และรสชาตินี่อร่อยเริ่ดจนถึงกับอยากกลับไปที่ปายเพื่อไปกินอาหารเช้าที่นี่เลยทีเดียวเชียว

กินเสร็จ check-out เพื่อเดินทางกลับตัวเมืองเชียงใหม่ ก่อนกลับแวะที่สุดฮิต อย่าง Coffee in Love กับ สะพานประวัติศาสตร์ สักหน่อย เดี๋ยวหาว่ามาไม่ถึง

ออกมาแวะห้วยน้ำดัง กับ น้ำตกหมอกฟ้า ก่อนเข้าตัวเมืองเชียงใหม่ คืนนี้นอน Furama

10 October 2010

วันกลับแล้ว วันนี้ check-out ออกมา ฝากกระเป๋าไว้ที่โรงแรมก่อนและเดินตัดเข้าถนนนิมมานต์เหมิน (จากโรงแรมสามารถเดินไปได้ ไมไกลมาก) เพื่อไปหาร้านฮิปๆน่ารักๆกินข้าวก่อนไป airport เดินไปเดินมาเจอร้านมิ๋งเมือง ดูเมนูแล้วเป็นอาหารง่ายๆแต่หลากหลาย + น่ากินดีเลยจัดทันที

เสร็จแล้วต่อด้วยขนมหวานร้านที่กำลังฮิต Mont Blanc อยู่ฝั่งเดียวกับมิ๋งเมือง ห่างกันนิดเดียว ร้านนี้ขนมน่ากินทุกอย่าง และชิ้นไม่ใหญ่ทำให้ลองได้หลายชิ้น รสชาติใช้ได้

ทานเสร็จอิ่มถ้วนหน้า เห็นฝั่งตรงข้ามมีร้าน DMilk ของโปรด เลยต้องจัดซะหน่อย ขอบอกว่าใครได้ไปขอให้ลองเมนู “เนสโล่” คือ กาแฟ+ไมโลปั่น อร่อยมากๆๆๆๆ ส่วนใครที่ชอบกินนม แนะนำเมนู “ไมโลดิบ” ที่เลื่องชื่อเลย จะเป็นนมปั่นใส่ผงไมโล … สรุปว่าใครไปเชียงใหม่อย่าลืมแวะชิมน้ำจากร้านนี้สักครั้งล่ะ

กินจนพุงกางเรียบร้อยก็กลับไปเอากระเป๋าที่โรงแรมเพื่อไปสนามบิน … จบ trip เชียงใหม่-ปาย อย่าง Happy …

PS: ถ้าถามว่าให้ไปปายอีกเอาไหม … คงจะไม่ เพราะเมืองนี้เที่ยวรอบเดียวก็หมดแล้ว ไม่มีอะไรน่าสนใจ (สำหรับเรา) แถมยังต้องขับผ่านโค้งที่น่าเวียนหัวไปอีกไกล แต่ใครยังไม่เคยไปก็ควรจะลองไปสักครั้งจะได้สัมผัสบรรยากาศแบบเรียบๆง่ายๆที่แตกต่างจากเมืองกรุงที่วุ่นวาย+เร่งรีบบ้าง

 

Comments