ไม่ได้ไปเที่ยวต่างประเทศพร้อมหน้ากันกับแม่และน้องมานาน ปกติต่างคนต่างแยกย้ายกันไป มาตรุษจีนปีนี้เลยจัดไปเที่ยวกันเองสักหน่อย .. แต่ก็นะ กว่าจะตัดสินใจว่าจะไปได้ก็มาตอนใกล้ๆจะวันตรุษจีนละ มาจองอะไรๆเอาแบบกระชั้นชิดก็แพงได้ใจใช้ได้เลย ตอนแรกคิดแทบแย่ว่าจะไปไหนดีระหว่างฮ่องกง มาเก๊า สิงคโปร์ สุดท้ายก็มาจบลงที่สิงคโปร์เพราะหาตั๋วได้ก่อนและราคาไม่เว่อร์เท่าฮ่องกง ^^” งานนี้เราบิน Air Asia ส่วนโรงแรมจองที่ Concorde Hotel อยู่บนถนน Orchard เลย กะว่าออกมาจากโรงแรมก็เดินเล่น Shopping หาของกินได้แบบสบายๆ อำนวยความสะดวกท่านแม่เต็มที่ งานนี้เนื่องจากไม่ได้ซื้อทัวร์ เราเลยหาข้อมูลคร่าวๆว่าอยากไปที่ไหนบ้าง แล้วก็จะใช้บริการ Taxi เป็นหลัก เนื่องจากไม่ได้มากันเองแบบเด็กๆ ใช้ MRT ตลอดแม่คงจะไม่ไหว เพราะงั้นจัด Taxi ไปซะส่วนใหญ่ของทริปนี้

3 Feb 2011
เดินทางถึงสิงค์โปร์ปุ๊บก็ออกมาเรียก Taxi ไป check-in ที่โรงแรมก่อนเลย Taxi ที่นี่ทันสมัยดี สามารถรูดการ์ดบนรถและ Print slip ออกมาให้ได้เลยทันที .. จะว่าไปแล้วก็ไม่ได้มาสิงคโปร์มา 3 ปีกว่าๆแล้วอ่ะเรา ครั้งสุดท้ายมา Train (ตั้งแต่ตอนอยู่ Merck) ครั้งที่แล้วได้ไป Night Safari มาแล้ว ครั้งนี้เลยเนียนๆเอามันออกไปจาก Plan (ก็นะ 3 วัน 2 คืน โปรแกรมก็เต็มเหยียดแล้วอ่าาาา)

Check-in โรงแรมเสร็จเรียบร้อยเราก็ไป Fountain of Wealth ที่ Suntec City ไปเดินรอบน้ำพุ พร้อมทั้งสัมผัสน้ำด้วยจะได้โชคดี เสร็จแล้วจะมี show น้ำพุ + Laser ให้ได้ดูด้วย จบแล้วก็ไป shopping ต่อที่ Mustafa ที่อยู่ในย่านอินเดีย ห้างนี้เปิด 24 ชั่วโมง คนส่วนใหญ่นิยมซื้อพวกของฝากที่นี่ล่ะ พวกน้ำหอม/chocolate เยอะมาก แต่จะบอกว่าที่นี่ขายทุกสิ่งทุกอย่างจริงๆเลยอ่ะ เราได้กระเป๋าเดินทางใบเล็กมาจากที่นี่เหมือนกัน เป็นกระเป๋าล้อลากราคา 600 บาทเอง สวยดูดี ถูกด้วย และถ้าซื้อของแล้วสามารถไปทำเรื่อง Refund Tax คืนได้ด้วยนะ ที่ในห้างเลย ซื้อเยอะก็ได้คืนเยอะนะขอรับ แต่พอดีพวกเราไม่เน้น shopping แค่มีซื้้อขนมเป็นของฝากเท่านั้น เลยไม่ได้คืนเยอะอะไร ^^”

เสร็จจากมุสตาฟา ทุกคนก็ดูเหนื่อยละ เลยเรียก Taxi กลับโรงแรมนอน … จบไปคืนที่ 1

4 Feb 2011
โปรแกรมเที่ยวส่วนใหญ่ถูกอัดแน่นอยู่ในวันนี้ เพราะเป็นวันเดียวที่มีเวลาทั้งวันอยู่ในสิงค์โปร์ พวกเราตื่นกันแล้วก็ไปทานข้าวเช้าที่โรงแรม อาหารอร่อยเลยล่ะ เห็นมีคนต่อ Line รอคิวบุฟเฟต์อยู่เยอะเหมือนกัน แต่เราไปกินกันตอนจะสิบโมงแล้ว ไลน์เลยสั้นหน่อย ^^” กินเสร็จเราก็ไปจุดหมายแรกของวันนี้เลย คือ “Marina Bay Sands” นั่นเอง ที่นี่เป็นทั้งโรงแรม/shopping center/casino ใหญ่และหรูมาก ชั้นบนดาดฟ้าเปิดให้นักท่องเที่ยวซื้อตั๋วขึ้นไปชมวิวได้ มองลงมาจะเห็นเมืองชัดเจน รวมทั้ง The Esplanade ที่อยู่ใกล้ๆกันก็ด้วย

เข้ามาด้านใน Marina Bays มีเรือให้นั่งด้วย แต่คิวยาวเลยไม่รอ ส่วน Casino ที่นี่ก็ใหญ่ใช้ได้เลย มี 2 ชั้น ตรวจตราเข้มงวดมากมาย นั่งเล่น Slot กับ ตู้เกมส์ Roulette กันไปด้วย เพราะโต๊ะที่นี่ Minumum Bet แพงมาก ตอนแรกว่าจะไปนั่งเล่น Black Jack ซะหน่อย เจอ Minimum เข้าไปแล้วแบบว่า “นี่มันไม่ใช่เล่นชิลๆแล้วม๊างงงง” เลยไปนั่งหยอดตู้ก้อได้ฟะ สรุปเล่นตู้เดียว 3 คน โดนกินเรียบ สบายใจ ไปต่อได้ 555++

เดินดูภายในตัวโรงแรมกับคาสิโนเสร็จแล้วก็ซื้อตั๋วขึ้นไปบน Sky Deck วิวข้างบนสวยมาก แบ่งเป็น 2 Zone คือ Zone ชมวิวกับ Zone ที่เป็นสระว่ายน่ำซึ่งให้เฉพาะแขกของโรงแรมเข้าไปใช้ได้เท่านั้น แต่สระว่ายน้ำของเค้าก็เจ๋งจริงๆนะแบบว่าว่ายไป ชมวิวเกาะสิงคโปร์ไปได้เลย เริ่ดมากๆ

จริงๆแล้วทริปวันนี้กะว่าจะไป Sentosa ด้วย แต่พอจบที่ Marina Bay นี่ ท่านแม่ก็เดินไม่ไหวแล้ว บอกว่าจะกลับโรงแรมแล้ว ให้เรากับโดมไปเที่ยวกันเอง … พวกเราเลยแม่ไปกินข้าวแล้วก็ไปส่งที่โรงแรม แล้วก็ขึ้น MRT (ไม่ Taxi ละ ก็ยังวัยรุ่นกันอยู่ ) จากสถานี Dhoby Ghaut ข้างๆโรงแรม ไปลงที่ Harbour Front แล้วเดินเข้าไปใน Vivo City เพื่อไปขึ้น Sentosa Express เข้าเกาะ Sentosa กันไปกับโดมนี่พวกเราเดินกันเร็วมาก เพราะตอนที่ไปถึงนั่นก็ราวๆเกือบ 5 โมงเย็นแล้ว เดินเล่นถ่ายรูปอย่างเดียวกว่าจะเสร็จก็มืดมากแล้ว จะว่าไปแล้ว Sentosa นี่ไม่ค่อยมีอะไรเท่าไหร่ ครั้งหน้าจะกลับมาใหม่ จะเข้าไปใน Universal Studio อย่างเดียวเลย

พอเริ่มค่ำแล้วก็ชวนกันกลับ เพราะห่วงแม่ที่อยู่โรงแรมคนเดียว เพราะต้องซื้อข้าวไปฝากด้วย เดี๋ยวตื่นมาหิวแล้วพิโรธ 555++ สรุปมา Sentosa ครั้งนี้พวกเรานั่งรถไปกันสุดสายแล้วเดินถ่ายรูปย้อนกลับมาจนถึงหน้า Universal Studio (ต้นสาย) เก็บรูปเท่าที่เห็นเสร็จก็ขาลากแล้ว เพราะทางเดินกลับต้องเดินวนๆขึ้นเขาขึ้นอะไรด้วย ตอนแรกว่าจะขึ้นไปบน Merlion ด้วยนะ แต่หาทางเข้าไม่เจอ + คนเยอะด้วย เลยไม่ขึ้นก้อได้ฟะ

 กลับมาถึง ViVo City กะว่าจะขึ้น MRT กลับเหมือนเดิม แต่เห็นคนต่อคิวซื้อตั๋วรถแล้ว มองหน้ากับโดมบอกว่าออกไปเรียก Taxi ดีกว่า เพราะคิวยาวมากกกกกกกกกก … แต่พอขึ้นไปบนถนนก็หา Taxi กันไม่ได้เลย สรุปเดินผ่านป้ายรถเมล์ เลยชวนกันว่า ไปลองนั่งรถเมล์ดีกว่า เอาให้ครบรสเลย … จะบอกว่าพอนั่งแล้วติดใจแฮะ รถเมล์ที่นี่ดีมาก วิ่งนุ่ม นั่งสบายด้วย ได้ชมวิวข้างทางอีกตะหาก … แถมพอเรานั่งกันไปจนถึง China Town ก็ยังอยากเดินดูต่ออีกนะ ชวนกันกระโดดลงจากรถ ไปเดินเล่นใน China Town ต่ออีกพักนึง ก่อนจะกลับไปซื้อ Carl’s JR & Yoshinoya ไปนั่งกินกับแม่ในโรงแรมไป ดูอินทรีแดงไป (เอา DVD มากันเหนียว ได้ดูจริงๆด้วย 555++) คิดถึง Carl’s JR มาก ที่เมืองไทยไม่มี (Update: ณ ปัจจุบัน ในเมืองไทยมี Carl’s Jr. แล้วนะ) กินแล้วได้รสเนื้อเด่นๆมากเลยอ่ะ เราว่าอร่อยกว่า Burger King อีกนะ … เมื่อไหร่อยากกินจัดจองตั๋วเครื่องบินกลับไปกินเลยดีกว่า (เว่อร์มะ)  :mrgreen:5 Feb 2011
วันสุดท้ายแล้วว ตื่นมาวันนี้ไม่มีโปรแกรมอะไรมากมาย กินข้าวเช้าที่โรงแรมเสร็จ ก็ Check-out แล้วฝากกระเป๋าไว้ที่โรงแรม แล้วก็พาแม่ไปเดินย่านญาติๆ (China Town น่ะแหล่ะ) จริงๆคือจะมาศักการะที่ วัดพระเขี้ยวแก้ว (Buddha Tooth Relic Temple) วัดนี้มีหลายชั้น มีพระพุทธรูป, พระบรมสารีริกธาตุให้ชมเยอะเลย ดูแล้วก็น่าสนใจดี ส่วนตัววัดเองก็สวยสะดุดตา ดูอลังฯมาก

ไหว้พระเสร็จเดินเล่นนิดๆหน่อยๆ ก็นั่ง Taxi ไปเดินเล่นที่ Simlim Square (Pantip สิงคโปร์) ซะหน่อย โดยการ Request จากโดม ว่าอยากเห็นหน่อยว่า IT ที่นี่เป็นยังไง … ไปถึงแล้วขอบอกว่าเป็นอย่างที่เล่าลือ คือ Pantip เมืองไทยดีกว่ามาก ของเยอะกว่า อลังการกว่า ที่สำคัญคือ ถูกกว่า!! เราเดินเล่นสำรวจกันได้พักนึงก็นั่งรถกลับ Orchard Road เพื่อไปกินข้าวรอบบ่ายก่อนกลับไปเอากระเป๋าเพื่อไปขึ้นเครื่องรอบ 4 โมงเย็น จริงๆคืออยู่ Orchard Road แต่นี่เป็นวันแรกที่ได้เดินใน Orchard แบบว่าเสียของมากๆ … เราไปเดินสำรวจ Super ของ Takashimaya ก่อนเลย เพราะจำได้ว่าครั้งที่แล้วตอนมา ที่นี่ของกินเยอะม๊ากกกก แต่สุดท้ายได้แต่ซื้อของใน Super เพราะว่า Food Court และร้านอาหารคนแน่นมากๆ เราเลยบอกแม่กับน้องว่าไปทานกันที่ Food Republic ดีกว่า แต่ก่อนไปได้ Sushi ชุดใหญ่ติดมือมา 1 Pack

ระหว่างทางเดินไป Food Republic เดินผ่านร้าน Charlie Brown Cafe น่ารักมากมาย เสียดายท่านแม่อยากกินข้าว เลยได้แต่ถ่ายรูปมา … อ่อ พอดีปีนี้เป็นปีกระต่าย ทั้งเกาะสิงคโปร์จะมีการประดับรูปกระต่ายเต็มไปหมดเลย ทั้งใน Sentosa, Universal, ตามถนนทั่วๆไป รวมทั้งบนถนน Orchard Road ด้วย เราว่าตรุษจีนที่นี่เค้าก็จัดได้ยิ่งใหญ่ดีนะ เสียดายแต่ว่าเวลามาเที่ยวประเทศนี้ในช่วงตรุษจีน ร้านค้ามักจะหยุดกัน

ทานข้าวกันเสร็จแล้วก็รีบกลับไปเอาของที่โรงแรมไปสนามบิน … จบทริป 3 วัน 2 คืนสั้นๆของพวกเรา ณ ตรงนี้

จบทริปนี้สรุปได้ว่า:

  • เดี๋ยวจะกลับมาใหม่ ติดค้าง Universal Studio ไว้ + คิดถึง Carl’s Jr แถมยังไม่ได้ไปกินข้าวมันไก่เทพ Boontongkee ด้วย
  • Air Asia Trip นี้โอเคดี ไม่มีดีเลย์
  • ถ้าจะมาเที่ยวกับแม่ สมควรมากับทัวร์ เพราะแม่ไม่เหมือนพวกเรา ลุยไม่ไหว (ถึงจะใช้บริการ Taxi ตลอดก็เถอะ ^^”)
  • ตอกย้ำว่าควรหลีกเลี่ยงการไปเที่ยวในหน้าเทศกาล เพราะคนเยอะ และแพงเว่อร์จริงๆ (3 คน ค่าตั๋วเครื่องบิน Air Asia + โรงแรม 2 คืน เกือบ 4 หมื่น)
  • ที่สิงคโปร์ไม่มีอะไรน่าไป Shopping เลย โดยเฉพาะสินค้าพวก IT นี่อย่าได้คิด
  • MRT และรถ Bus ของเค้าเจ๋งกว่าของไทยเราจริงๆ
  • Sentosa ไม่มีอะไรเลย ถ้ามีเวลาวันเดียว เข้า Universal เหอะ
Comments