เหตุเกิดจากเรากะโดมมี Voucher Thai Smile รวมกันที่ใกล้หมดอายุทั้งหมด 4 ใบ ก็เลยให้แม่เลือกว่าอยากไปเที่ยวไหน หลังจากแม่เปลี่ยนใจไปๆมาๆหลายสิบรอบ สุดท้ายแล้วก็มาลงตัวที่ภูเก็ต เพราะจังหวัดอื่นๆเราก็ไปด้วยกันหมดแล้ว ยกเว้นภูเก็ตนี่แหล่ะ ที่ต่างคนต่างไป ไม่เคยไปด้วยกันสักที คราวนี้เลยจัดไปนะจ๊ะ โดยท่านแม่บอกเลยว่าไปแค่คืนเดียวพอ ไม่อยากอยู่ที่ไหนนานๆ ตามสไตล์เที่ยวแบบชะแว้บทัวร์เหมือนเดิม ก็โอเค ดีเหมือนกัน ไม่ต้องลางานอะไรเพิ่มด้วย ไปเสาร์กลับอาทิตย์ สบายยยยยละ

หลังจากที่ตกลงเลือกปลายทางได้แล้ว ก็เริ่ม search หา flight time ของ Thai Smile โดยเลือกบินออกจากดอนเมืองเป็นหลัก เพราะอยู่ใกล้บ้านมากกว่าสุวรรณภูมิ ซึ่ง Thai Smile เองก็จะมี Flight ที่ออกจากทั้งดอนเมือง (DMK) และ สุวรรณภูมิ (BKK) เวลาเลือกต้องดูดีๆ

ตอนหา flight time ของ Thai Smile เรา search จากเวบ traveloka เอา หลังๆใช้เวบนี้บ่อยเพราะหน้าเวบเค้าออกแบบมาได้ clean และใช้งานง่าย รวมทั้งการ search ได้ผลเร็วดี เรื่องความเร็วมันมีผลเหมือนกันนะ โดยเฉพาะทริปที่เรายังไม่ได้ปักหมุดว่าต้องไปวันไหน การ search หลายๆรอบเพื่อดูว่าช่วงเวลาไหน ตั๋วเครื่องบินราคาน่าคบหานี่ ถ้าไป search จากเวบอืดๆก็ทำให้เสียเวลาไปประมาณนึงเลยล่ะ

พอได้วัน-เวลาที่จะไปเรียบร้อย ก็ให้โดมจัดการโทรจองเรื่องตั๋วกับ Call Center ส่วนเราก็เริ่มหาที่พัก โดยมี Target ว่าอยากได้แบบห้องพักที่วิวดีๆ มีสระว่ายน้ำใหญ่ๆ และเป็นแบบ 2 Bedroom จะได้ไม่ต้องอยู่แยกกัน สุดท้ายก็มาลงตัวที่  Serenity Resort & Residences เลือกห้องเป็นแบบ “Grand Seaview Suite” ซึ่งเป็นห้องแบบ 2 Bedroom ราคาที่จองตอนนั้นรวมภาษีแล้ว ประมาณ 5,500 บาท แต่โชคดีที่พอไปถึงแล้วพนักงาน upgrade ห้องให้เป็น Penthouse ซึ่งจะมีชั้นบนที่เป็น Rooftop พร้อม Jacuzzi เพิ่มขึ้นมาด้วย โชคดีจัง ^^

ขั้นตอนต่อไปคือหารถเช่า ครั้งนี้มุ่งมั่นว่าจะใช้บริการ เครือ Honda เจ้าเดิม เพราะกะจะ Test Drive Honda Civic ตัวใหม่ซะหน่อย ตอนจองเรา inbox ไปถามใน Facebook Page ของเค้าเลย และเค้าก็ทำการจองให้ผ่าน Facebook นี่แหล่ะ ราคา 1,050 บาท/วัน สำหรับ Civic คืนช้าได้ 4 ชม. เหมือน Avis เจ้าประจำ แถมราคานี้รวมประกันชั้น 1 ให้หมดแล้วด้วย เราขอเช่า GPS ติดกับรถมาด้วยเลย เค้าก็คิดแค่ 100 บาทเอง ดีงามจริงๆ ^^

18-June-2016
พวกเราเลือก Flight เดินทางจากดอนเมืองตั้งแต่เช้า เครื่องออก 9:25 ซึ่งเป็น Flight แรกของ Thai Smile ที่จะบินไปภูเก็ต ไปถึงสนามบินก็เดินไปคอยหน้า Gate 51 ที่เดิม หลังจากที่ดอนเมือง Renovate ใหม่แล้วนี่ดูดีขึ้นมากจริงๆ ร้านอาหารด้านในนี่ก็เยอะอยู่นะ มีทั้ง KFC, McDonald’s, Subway, Coffee Club, Starbucks แล้วก็ยังมี Bonchon อีกสาขาที่ภายในเวิ้งเดียวกันก็ยังมีร้านอาหารอื่นๆอีกนิดหน่อยตรงมุมก่อนเลี้ยวไป Gate 51
หลังจากนั้นก็นั่งรถเวลาขึ้นเครื่องที่หน้า Gate 51 เราขึ้น Thai Smile ทุกที ก็ได้ขึ้นที่ Gate นี้ทุกครั้ง ตรงนี้คนน้อยดี มี Index ให้เดินดูของฆ่าเวลาได้ ร้าน Snacks ก็มีอยู่หลายร้าน (ขอบอกว่าขนมเปี๊ยะร้านโกไข่อร่อยมากกกก)
เรา request ตอน check-in ว่าถ้าที่นั่งไม่เต็ม ขอนั่งแยก 2-2 (2 คน/แถว) จะได้ไม่ต้องนั่งเบียดกัน ซึ่งก็ได้นั่งแบบนั้นทั้งไป-กลับเลยด้วย สบายยยย ^^ ส่วน Snack ที่แจกบนเครื่องรอบนี้แนวดี เป็นทาโกะยากิ ออกแนวนุ่มๆหน่อย แต่รสชาติก็งั้นๆล่ะ
ถึงสนามบินภูเก็ต รับกระเป่าเรียบร้อย ก็ไปติดต่อเรื่องรถที่ Counter Chic Car Rent เสร็จแล้วก็ต้องเดินออกไป รับรถด้านนอก อย่างที่บอกว่าตั้งใจเช่า Civic ตัวใหม่มาเพื่อขับ Test Drive … มองไปมองมาเจ้า new civic นี่ก็หล่อดีเหมือนกันนะเนี่ยะ ^^

หลังจากจัดการเรื่องรถเสร็จแล้วก็ประมาณเที่ยงๆพอดี เพราะงั้นจุดหมายแรกเลยคืออาหารกลางวัน เล็งร้านวันจันทร์ไว้อยู่แล้ว เลยไม่ต้องคิดมาก ใส่ชื่อร้านเข้า GPS แล้วก็ให้นำทางไปเลย ระยะทางจากสนามบินไปที่ร้านประมาณ 32 km ใช้เวลาราวๆ 45 นาที  ก็มาถึงที่ร้าน ส่งพลพรรคลงหน้าร้าน ส่วนเราก็เอารถไปจอดไกลหน่อยแล้วค่อยเดินมา อาหารภาพรวมพวกเราเฉยๆกันนะ ไม่ได้อร่อยว้าวอะไรเป็นพิเศษ

ออกจากร้านเดินไปเอารถที่จอดอยู่ตรงหน้า สวนเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษามหาราชินี (ลานมังกร)
แล้วไปวัดฉลองต่อเลย อยู่กันแป๊บเดียว ไม่ได้เดินขึ้นไปด้านบน เพราะท่านแม่เริ่มปวดเข่า ดูสีหน้าจิ เริ่มยิ้มไม่ออกแระ ^^”
เข้าไป Check-In รร.ดูห้องกันเลยดีกว่า จะได้มีเวลาชิลๆในรร.กันสักหน่อย  Serenity Resort & Residences อยู่หาดราไวย์ เข้าไป Check-in ปุ๊บพนักงานแจ้งว่าจะ upgrade ห้องให้นะ จากที่จองมาเป็นแบบ “Grand Seaview Suite” เค้า upgrade ห้องให้เป็น Penthouse อย่างที่บอกไปตอนต้นให้ love เลย  😀
ในห้องมี full kitchen ทำอาหารได้ มีที่ดูดควัน ตู้เย็นขนาดใหญ่ พร้อมน้ำให้อีกเพียบ รวมทั้งชา-กาแฟ เครื่องต้มน้ำ ทีวีมีทั้งในส่วนของห้องนั่งเล่น และในห้องนอน  ท่านแม่ก็จองโซฟาหน้าทีวีนอนดูหนังไป ชิลมากกกกกนะจ๊ะ

ตรงระเบียงห้องของ Type Penthouse นี้จะมีบันไดเดินขึ้นไป Rooftop ชั้นบน สามารถเดินขึ้นไปดูวิวได้ รวมทั้งนอนแช่ Jacuzzi ก็ได้ พวกเรายังไม่ได้จัดกันในวันแรก เดี๋ยวก่อนกลับพรุ่งนี้ค่อยมาทดสอบประสิทธิภาพกัน ^^
พอบ่ายแก่ๆก็เดินไปเล่นน้ำกันที่สระใหญ่กันสักหน่อย ถ่ายรูป เล่น Volleyball น้ำ พอเป็นพิธี 555++
ตกค่ำ เริ่มหิวเลยพากันไปที่หาดราไวย์ ที่อยุ่ห่างจากรร.ไปแค่ขับรถ 5 นาที หลังจากเดินดูแผงขายของทะเลกันหนุกหนาน ก็ได้ของที่แต่ละคนอยากกินมาหลายอย่าง เอาไปให้ทางร้านอาหารแถวนั้นปรุงต่อ เราเลือกร้านมุกดี (Mook Dee Seafood) เหมือนคราวก่อนที่มา เพราะร้านนี้น้ำจิ้มเค้าเด็ดจริง
ต่างคนต่างเลือกมาโดยไม่ได้ดูปริมาณ สรุปพอเห็นอาหารแล้วก็แบบว่า เฮ้ย เราสี่คนจะกินกันหมดป่าวเนี่ยะ แต่สุดท้ายหมดครับ!! อย่าได้ดูถูกกระเพาะบ้านนี้เลยเชียวนะ  😆 ยังไม่พอ จัดกันไปเต็มคราบขนาดนี้ เรายังมีหน้าชวนทุกคนไปกินโกชัยปาท่องโก๋ตบท้ายกันอีกนะ  คือติดใจจากครั้งที่แล้วงิ :mrgreen: ทั้งๆที่จากหาดราไวย์ตรงนั้นต้องขับรถกลับเข้าเมืองไปอีกครึ่งชม.กันเลย แห่ะๆๆ
กินอิ่มอืดกันขนาดนี้ ก็ขับรถกลับไปหลับได้สบายพุง สบายใจกันสักที แห่ะๆๆ

19-June-2016
ตื่นเช้ามา แน่นอนว่าพลาดไม่ได้กับอาหารเช้าของโรงแรม ระหว่างทางเดินไปห้องอาหารก็ถ่ายรูปกันเล่นๆซะหน่อยยยย


ห้องอาหารอยู่ริมสระว่ายน้ำนั่นแหล่ะ ด้านหน้าก็เป็นชายหาด กินไป นั่งรับลมไป อาหารไม่ได้เยอะมาก แต่ก็เล่นเอาอิ่มอืดพอตัวกันเลย 555+
อิ่มเรียบร้อย ท่านแม่ คุณน้องชายขอกลับห้องนอนต่อ ส่วนเตยก็ไปเดินเล่นถ่ายรูปแมวชิลๆ ส่วนเราก็ไปที่ Reception ขอยืมจักรยานของทางรีสอร์ตไปปั่นเล่นแถวนี้สักหน่อย ต้องชมว่าจักรยานใหม่และเท่ห์มาก มีหมวกจักรยานให้ด้วย เลยปั่นไปถ่ายรูปเล่นแถวหาดราไวย์ซะเลย มันก็คือตรงร้านมุกดีที่เรามากินข้าวกันเมื่อคืนนั่นแหล่ะ ^^
ขากลับปั่นผ่านวัดสว่างอารมณ์ แวะเข้าไปไหว้พระ ทำบุญ ซะหน่อย เห็นมีทัวร์จีนมาลงด้วยแฮะ
กลับมาถึงห้อง เกิดอาการร้อนมาก ไหนๆก็ไหนๆละ เลยชวนกันขึ้นไปแช่จากุซซี่กันหน่อย ส่วนเตยขอบายนอนอยู่ห้อง เราเลยขึ้นไปท้าแดดกันอยู่ชั้นดาดฟ้า แดดแรงมากๆ แต่ก็ทำให้รูปถ่ายสีออกมาดีนะ รูป set นี้มาจาก SJCAM ที่อุตส่าห์ขนมา 555+
หลังจากนั้นก็ไปแต่งตัว เก็บของ แล้วก็ Check-Out จากรร. ตอนแรกกะว่าจะเข้าเมืองไปเลย แต่ก็นะไหนๆก็อยู่ใกล้ๆแหลมพรหมเทพละ ถ้าไม่แวะไปซะหน่อยเดี๋ยวจะหาว่ามาไม่ถึง ทางไปแหลมพรหมเทพก็คือขับไปทางหาดราไวย์นั่นแหล่ะ แล้วเลี้ยวขวาต่อไปอีกไม่ไกลก็ถึง แต่เนื่องจากท่านแม่ปวดเข่าเลยขอเดินเล่นรออยู่ด้านล่าง ก็มีพวกร้านกาแฟ และร้านขายของที่ระลึกให้เดินเล่นฆ่าเวลาได้ชิลๆ

ออกจากแหลมพรหมเทพแล้วก็รีบทำเวลาหน่อย บึ่งเข้าเมืองไปกินข้าวกันที่ร้านกล้วยน้ำว้า เป็น Wongnai User’s Choice 2016 ซะด้วย Rating ดีมาก เลยพลาดไม่ได้ มาช่วงบ่ายแก่ๆ แต่คนก็ยังเยอะอยู่ ร้านตกแต่งได้น่ารักกิ๊บเก๋มาก เมนูก็น่ากินไปซะทุกอย่างทั้งอาหารและขนม เลยช่วยกันสั่งแบบรัวๆ แต่หมดไม่มีเหลือ อาหารทุกอย่างมีแต่อร่อย กับอร่อยมาก ราคาถ้าเทียบกับเรทในกทม.แล้วถือว่าค่อนข้างถูกเลยนะ รวมหมดเท่าที่เห็นนี่ราคาราวๆ 800 กว่าบาทเอง สรุปว่าแนะนำมากสำหรับร้านนี้ ประทับใจยิ่งกว่าร้านวันจันทร์เยอะ

ร้านกล้วยน้ำว้า ภูเก็ตร้านกล้วยน้ำว้า ภูเก็ตร้านกล้วยน้ำว้า ภูเก็ตกินเสร็จก็ขับรถหน้าตั้งไปสนามบินกันเลยทันที เพราะเวลากระชั้นแล้ว ต้องเอารถไปคืนอีกตะหาก แต่ก็ทันแบบฉิวเฉียดกันไป ลุ้นดี 555++ คนในสนามบินภูเก็ตเยอะมาก ขากลับ Thai Smile แจกมาเป็นแซนวิชครัวซองค์พร้อมน้ำดื่มอีกขวด

ระหว่างรอขึ้นเครื่องหน้า Gate @สนามบินภูเก็ต

สรุปว่าทริปนี้ก็เป็นอีกทริปสั้นๆที่ชิลล์ดี ไม่มี agenda อะไรเลย ได้กินๆนอนๆพักผ่อนสมใจคุณนายแม่กับน้องชายมากๆ ส่วนน้องเตยแอบเซ็งนิดๆ เพราะเป็นขาลุย backpack เหมือนกัน เลยบอกว่าทริปนี้ไม่ใช่สไตล์ เพราะชิลล์ไปนะคะคุณพี่  😆

Comments