ช่วงเดือนเมษาที่ผ่านมาเครือ Onyx มีโปรโมชั่นจอง 1 คืนแถม 1 คืนเข้ามากระตุ้นต่อมของนักเที่ยวทั้งหลาย เราก็ต้องไม่พลาด แต่ด้วยความยุ่งมากช่วงนี้เลยเลือกเป็นใกล้ๆที่เดิมคือพัทยานี่แหล่ะ รร.เครือ Onyx ส่วนใหญ่ที่รู้จักเลยคือ Amari และที่พัทยานี่ก็มีรร.เครือนี้อยู่หลายที่ แต่ครั้งนี้เราเลือกจองมาที่ Amari Residences Pattaya ที่อยู่บนเขาพระตำหนัก เพราะดูใหม่และสงบดี ห้องพักเป็นแบบ 1 Bedroom Suite จองในช่วงโปรโมชั่นได้มาในราคาประมาณ 4,200 บาท สำหรับ 2 คืน รวมอาหารเช้า ก็ตกแล้วคืนละ 2,100 บาท ถือว่าโอเคเลยกับรร.ระดับนี้

12-May-2017
พวกเราออกจากกทม.เจอฝนตกหนักมาตลอดทาง กว่าจะมาถึงเขาพระตำหนักก็บ่ายสองกว่าๆแล้ว ครั้งนี้ตั้งใจจะกลับมาซ้ำส้มตำเจ๊อารีย์ ที่อยู่บนเขาพระตำหนัก จากที่เคยประทับใจครั้งก่อน มาครั้งนี้ก็ยังอร่อยอยู่นะ แต่รู้สึกเหมือนประทับใจครั้งก่อนมากกว่านิดๆ แต่โดยรวมถือว่าดีเลย แถมนั่งกินไปชมวิวไปได้ด้วย

กินส้มตำเสร็จเราเดินต่อมาอีกนิดจะเจอร้านกาแฟดังบนเขาพระตำหนักนี่เลย คือร้าน Coffee Break ร้านนี้เราเล็งอยากมาตั้งหลายทีแล้ว แต่มาพัทยาทีไรก็ไม่ได้ขึ้นมาบนเขาพระตำหนักนี่สักที ครั้งนี้เลยไม่พลาด จุดเด่นของร้านนี้ไม่ได้อยู่ที่รสชาติของกาแฟหรือขนมอะไรเลย แต่คือวิว! ร้านนี้สามารถมองเห็นวิวของพัทยาจากในมุมสูงได้แบบแจ่มๆ แถมราคากาแฟ ขนมปังต่างๆก็ถูกมากด้วย พวกเครื่องดื่มต่างๆแค่แก้วละ 35-60 บาท แต่รสชาติก็เฉยๆนะ แต่วิวที่ได้นี่เกินราคาไปหลายขุมแล้ว

จากนั้นเราก็ไป Check-In กันที่รร. ที่จอดรถของที่นี่จะอยู่ใต้ดิน มีหลายชั้น แต่ถ้ากลับมาดึกๆมีเต็มและต้องไปจอดด้านนอกแทน ขั้นตอนการเช็คอินใช้เวลาไม่นานก็จะได้ Key Card สำหรับใช้ขึ้นลิฟต์&เข้าห้องมา แอบหงุดหงิดลิฟต์ที่นี่อยู่นะ มันกดยากและการขึ้นๆลงๆมันไม่ค่อยลื่นไหลเท่าไหร่ มีแอบสะดุดๆหลายที ทั้งๆที่ยังใหม่

ไปดูห้องแบบ  1 Bedroom ที่จองมาดีกว่า ขนาดไม่ใหญ่เท่าไหร่ แต่ก็แบ่งได้เป็นสัดส่วนดี แยกกันระหว่างห้องนอนกับห้องนั่งเล่น แต่งแนว Modern มีทีวีจอแบนทั้งในห้องนอนและห้องนั่งเล่น เสียบ usb ดูหนังได้สบายๆ ที่นอนนอนสบายมากกกกกกก

ที่ถูกใจมากคือมีครัวให้แบบค่อนข้างครบทั้งไมโครเวฟ และตู้เย็นขนาด Full Size ที่มาพร้อมช่องทำน้ำแข็ง ช่องนี้มีประโยชน์มากคือทำน้ำแข็งได้เร็วสุดๆ แบบ 10-15 นาทีก็แข็งแล้ว ถ้าใครมาพกถาดน้ำแข็งมาเพิ่มได้เลยนะ เผื่อมีปาร์ตี้จิบเบียร์ในห้องล่ะก็ไม่ต้องโทรไปสั่งน้ำแข็ง หรือหิ้วมาจาก 7-11 ให้หนักเลย

พวกเรานอนเล่นดูหนังกันจนค่ำ ตอนแรกคิดอยู่ว่าจะไปกินร้านไหนยังไงดี แต่ด้วยความที่กินส้มตำมาตอนบ่ายแก่ๆ เลยยังไม่หิว สุดท้ายเลยไปเดินเล่นที่ตลาดกลางคืนพัทยาหาของกินเล่นกลับมาแกล้มเบียร์ดูหนังที่ห้อง จบวันแรกไปแบบชิลๆจริงๆ

13-May-2017

ตื่นมาตอนเก้าโมงกว่าๆลงไปลองอาหารเช้าของที่นี่สักหน่อย ไลน์อาหารของเค้าไม่ใหญ่ แต่ก็มีอาหารหลักๆครบ รสชาติโอเคทุกอย่าง แล้วก็ตามเคยคือเราเดินไปขอให้เชฟทำแพนเค้กขนาดใหญ่หน่อยมาให้ เพราะชอบกินแผ่นใหญ่มากกว่าแผ่นเล็กๆที่เค้าทำไว้เสิร์ฟให้คนทั่วไป เวลาได้กินแพนเค้กตอนเช้าๆพร้อมกาแฟนี่มันฟินจริงๆ (ยังกะเด็กน้อยเลยตรู ^^”)

กินเสร็จก็กลับไปนอนอืดต่อ คุยกันว่าจะทำไรดีวันนี้ และแล้วก็แว่บมาว่าไปแช่ออนเซ็นกันดีกว่า เพราะที่พัทยาใต้นี่มี Yunomori Onsen อยู่ ขอลองสักหน่อยเหอะ พวกเราเลือก Package แบบแช่ออนเซ็น + นวดไทย 90 นาที ใช้บัตร JCB ลดได้ 15% รวม VAT แล้วเหลือประมาณ 1800 บาท/2 คน ก็คนละ 900 บาท ถือว่าโอเคเลยนะ สำหรับ Onsen ก็แช่ได้ทั้งวัน ถ้านวดตามเวลาที่จองเสร็จแล้วจะกลับไปแช่ต่อก็ได้

หลังจากจ่ายเงินแล้วเราต้องเก็บรองเท้าไว้ที่ Locker ด้านหน้าทางเข้านี่เลย แล้วก็เดินเท้าเปล่าเข้าไปในส่วนของออนเซ็น

รับชุดเปลี่ยนจากที่ Counter ด้านหน้าแล้วทางพนักงานก็จะเข้าไปอธิบายขั้นตอนโดยเริ่มจากการเปลี่ยนชุด & เก็บของที่ Locker ก่อน จะมีสายรัดข้อมือมาให้เลยว่า locker เราเลขที่เท่าไหร่ สะดวกดี สายรัดนี้ใส่ลงน้ำได้เลย บริเวณ Locker นี่ก็จะมีที่แต่งหน้าแต่งตัว มีไดร์เป่าผมและอุปกรณ์ต่างๆให้ครบ รวมทั้งชุดที่ให้ลูกค้าที่เป็นผู้หญิงใส่ลงบ่อได้ด้วย จะเป็น bikini สีดำบางๆให้ใส่ได้ จะได้เขินน้อยหน่อย ส่วนชุดจะมี 2 แบบคือเป็นยูกาตะ กับชุดที่ใส่ไปนวด พวกเรามีนัดนวดกันเลยเอาชุดสำหรับใส่ไปนวดมาก่อน พอนวดเสร็จกลับมาก็ค่อยใส่เป็นชุดยูกาตะไปนั่งเล่นถ่ายรูปต่อได้อีกชุด

จากตรงจุดนี้จะไม่ให้ถ่ายรูปละ ยังไงไปดูรูปและรีวิวเต็มๆจาก Chillpainai ได้  ทางเดินก่อนจะถึงบ่อต่างๆก็จะเดินผ่านทั้งห้อง Steam & Sauna ภายในจะมีบ่อหลายแบบ โดยเกือบทั้งหมดจะเป็นบ่อร้อน แต่จะมีบ่อเย็น 1 บ่อด้วย วิธีการที่ควรทำตามที่เค้าบอกคือให้แช่ร้อนสลับเย็น ร้อนนี่ก็คือราวๆ 40 องศา แช่มาร้อนแบบพีคๆ แล้วมาจุ่มบ่อเย็นนี่ทำให้เข้าใจอารมณ์ของพวกต่างชาติที่ไปทำ challenge ว่ายน้ำตอนหน้าหนาวตอนที่น้ำเกือบเป็นน้ำแข็งเลยล่ะ คือมันจี๊ดมาก บ่อเย็นนี่อยู่ได้แค่ไม่ถึงนาทีก็ต้องขึ้นละ แบบว่าขาเราพาลจะเป็นตะคริวเอา สรุปว่าบ่อยเย็นนี่โหดกว่าบ่อร้อนเยอะนะสำหรับเรา 555++

แช่กันไปราวๆ 45 นาที ก็ได้เวลาที่จองนวดไว้ ทางพนักงานก็จะเข้ามาตาม เราก็เปลี่ยนชุดเป็นชุดสำหรับนวด ออกไปที่ zone นวด ทางพนักงานเค้าจะมีใบรายการมาให้เราใส่ข้อมูล ว่าเราต้องการให้เค้าเน้นจุดไหน นวดหนัก-เบา ฯลฯ เสร็จแล้วพนักงานก็จะนำไปที่ห้องนวด พนักงานที่นี่นวดดีมาก บรรยากาศในห้องรวมก็ดี 90 นาทีผ่านไปแบบเพลินเกือบหลับเลย เสร็จแล้วหายเมื่อยหายเหนื่อยกันไป นวดเสร็จพวกเราก็กลับไปแช่ออนเซ็นตบท้ายอีกพักนึง เสร็จเรียบร้อยตัวเบาหวิวววววววเลย

แช่หนำใจแล้วก็เปลี่ยนเป็นชุดยูกาตะมาถ่ายรูปกันชิคๆนิดหน่อย ใน zone Cafe ที่มีทั้งอาหารและเครื่องดื่มของที่นี่ ตามที่เคยอ่านมา รวมทั้งที่เคยดูโคนันมาด้วย เค้าบอกว่าแช่น้ำร้อนแล้วต้องตบด้วยนมเย็นๆสักขวด เราเลยรี่มาเลย สรุปหมด!?! เลยงอลลล ไม่กินอะไรแระ เดี๋ยวออกไปกินข้าวต้มแทนก็ได้  

ภายใน zone นี้เค้าจะมีห้องนั่งเล่นชิลๆด้วย มี sofa ให้พักผ่อน เล่นมือถือ up face ได้แบบสบายๆ แต่เราไม่ได้นั่งล่ะ เพราะเริ่มหิวแระ ไปเปลี่ยนชุดแล้วออกไปหาไรกินต่อดีกว่า

ออกจาก Yunomori Onsen ที่อยู่พัทยาใต้ มุ่งหน้าไปร้านข้าวต้มประจันบาน ที่อยู่พัทยากลาง ตัวร้านหาไม่ยากเพราะอยู่เยื้องๆกับ Harbour Mall  ร้านใหญ่โต อาหารเยอะมาก มีทุกอย่างที่อยากกินแหล่ะ จริงๆไม่ต้องดูเมนูหรอก อยากกินอะไรก็สั่งไป เราก็จัดกันมาตามรูป รสชาติโอเคเลย

ยังไม่อยากรีบกลับรร. เลยไปหาที่นั่งฟังเพลงจิบเบียร์ชิลๆต่อ อยากลองร้านที่ยังไม่เคยลอง เลยเปิด Wongnai ดู Rating ร้านแจ่มๆ สุดท้ายก็มาลงเอยกันที่ร้าน The Living Bistro & Bar ที่อยู่พัทยาเหนือ วันนี้เก็บครบเลย ทั้งพัทยาใต้-กลาง-เหนือ  ที่จอดรถด้านข้างของร้านมีไม่เยอะ แต่สามารถจอดได้ทั้งฝั่งหน้าร้านหรือฝั่งตรงข้าม พอเข้าไปในร้านก็เลือกที่นั่งห่างเวทีออกมาหน่อยจะได้ไม่หนวกหู ร้านนี้น้องพนักงานผู้หญิงใส่ชุดเกาะอกผูกหูกระต่าย บรรยากาศดี๊ดี  ส่วนพวกเรามากันแบบอิ่มๆจากร้านข้าวต้มเลยสั่งมาแค่ Hoegaarden แล้วก็ตบด้วยสิงห์อีกเหยือก แต่เราเป็นประเภทกินเบียร์เปล่าๆไม่เป็น ต้องมีของกินเล่นไปด้วย เลยสั่ง French Fries & ถั่วทอด มากินเล่นๆ French Fries ที่นี่รสชาติใช้ได้เลยนะ ส่วนวงที่นี่เล่นได้โอเค แต่คาดว่าส่วนใหญ่คนที่มานั่งที่นี่คงให้เรื่องวงเป็นเรื่องรอง อย่างนั่งๆไปมีโต๊ะใหญ่ฉลองวันเกิด ทางพนักงานเรียกบันนี่สาวมาร่วมวงอวยพรให้ถึงโต๊ะกันเลยนะ แหล่มจริงๆ

 14-May-2017

วันนี้ Check-Out จากรร.แล้วก็ไปกินข้าวกลางวันที่ร้านครัวหน้าบาน อีกร้านอาหารแนวง่ายๆที่อยู่ในลิสต์มาตั้งแต่คราวก่อนโน้น แต่ครั้งนั้นมาแล้วร้านปิด ร้านหาง่ายเพราะอยู่ตรงข้าม Differ พัทยาเลย ร้านนี้อาหารก็เยอะอีกละ เน้นแนวทานง่ายๆทั้งข้าวและก๋วยเตี๋ยว แต่อาหารอย่างอื่นๆแนวกับข้าวก็มีอีกมากนะ เราสั่งมาแค่ไม่กี่อย่าง เพราะร้านนี้อาหารจานใหญ่มาก มื้อนี้อร่อยหมด แต่ประทับใจข้าวไข่ข้นราดซอสพะแนงสุดๆ อร่อยมากกกกกก

อิ่มแล้วก็ขับรถกลับกทม. แต่คุยกันว่าขับทางธรรมดาไปทางบางแสนดีกว่า จะได้แวะหาร้านขนมกินก่อนกลับ ด้วยความที่อยากกินของหวานเย็นๆ แนวไอติม เลยจิ้มมาได้เป็นร้าน Seoul Bingsu Korean Dessert Cafe ที่ Rating ดีมากมาย ร้านอยู่ไม่ไกลจากม.บูรพาฯ ตอนไปถึงนี่มีแต่น้องๆนศ. เข้าๆออกๆ มันดี๊ดีอ่ะ  เมนูของร้านนี้หลักๆมี 3 ประเภทคือ 1. บิงซู 2. Toast 3. ไก่ทอด เราเลยสั่งมาเป็นบิงซูมะม่วง เห็นใน social แล้วมันดูดีอ่ะ นั่งรอสักพักพนักงานก็ยกมาเสิร์ฟ ดูดีมากกกก อร่อยด้วย บิงซูขนาดนี้กิน 2 คนกำลังสบายๆเลย ราคาก็ 200 บาท ไม่มี++

พุงตึงละ ก็ขับรถกลับกทม.กันได้สักที ปิดไปอีกทริปกินๆนอนๆแบบที่ชอบไปอีก 1 ทริป และก็คงมีทริปประเภทนี้ตามออกมาอีกเรื่อยๆ เพราะไม่ต้องแพลนเยอะให้ปวดหัว มีโปรฯดีๆเมื่อไหร่ก็สอยได้เลย 

Comments